SOOKSAI
วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552
ชีวิต..ไม่ได้มีไว้ให้ยอมแพ้..
วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552
สรุปสิ่งที่ได้จากการเรียน การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร ครั้งที่ 1-2
จากการที่ได้เรียนในครั้งที่ 1 และ 2 วิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร ทำให้ได้รู้ถึงบทบาทความหมายของข้อมูล สารสนเทศ ระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างแท้จริง รู้วิธีการประยุกต์ใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศในการศึกษา ทำให้ทราบถึงประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตมากขึ้นแต่ก็มีผลด้านเสียบ้าง พอสรุปได้ดังนี้
1. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้แก่
- ความหมายของข้อมูล สารสนเทศ ระบบสารสนเทศ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้เรียนรู้ถึงความหมาย ความสัมพันธ์ของข้อมูลและสารเทศ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
- คุณสมบัติที่ดีของสารสนเทศ ได้แก่ มีความถูกต้องเชื่อถือได้ สามารถตรวจสอบได้ มีความสมบูรณ์ ทันต่อการใช้งานหรือทันเวลา มีความกะทัดรัด และตรงประเด็นหรือตรงตามความต้องการ
- การจัดโครงสร้างของระบบสารสนเทศ มีลักษณะคล้ายรูปปิรามิด แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การจัดโครงสร้างของระบบสารสนเทศโดยแบ่งตามการใช้สารสนเทศ และการจัดโครงสร้างของระบบสารสนเทศโดยแบ่งตามกิจกรรม
- การไหลเวียนของสารสนเทศ คือ การรวบรวมระบบงานย่อยต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วยสารสนเทศย่อย ๆ สร้างเป็นฐานข้อมูล เป็นการนำสารสนเทศที่ไหลเวียนในระบบที่มีการเชื่อมต่อไปยังหน่วยงานระดับต่าง ๆ เพื่อให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
- การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ โดยให้ความสำคัญและต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ ข้อควรคำนึงในการจัดทรัพยากรสารสนเทศ และการนำการจัดการทรัพยากรสารสนเทศมาช่วยในงานด้านต่าง ๆ
2. เทคโนโลยีสารสนเทศต่อการพัฒนาการศึกษา ได้แก่
- บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศต่อการพัฒนาการศึกษา โดยเฉพาะเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์และการสื่อสาร ที่ มสด.นำมาใช้ 3 ด้าน ได้แก่ MIS EM และ ITE
- ห้องสมุดเหมือน หรือ Digital Library ซึ่ง มสด.บริการฐานข้อมูลออนไลน์ 3 ประเภท ได้แก่ e-JOURNAL วิทยานิพนธ์ ภาคนิพนธ์และงานวิจัยและบทคัดย่อ และ e-Book
- บทบาทของระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตกับการสนับสนุนการศึกษา ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทำให้การสืบค้นข้อมูลและแลกเปลี่ยนสาระความรู้ต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงมากขึ้น รูปแบบการศึกษา เช่น การศึกษาทางไกล การเรียนการสอนผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนส์ การเรียนแบบออนไลน์ ระบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- นโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศ ระยะ พ.ศ.2544-2553 (IT 2010) ของไทยได้กำหนดเป้าหมายและยุทธศาสตร์กรพัฒนาด้านการศึกษาไว้ว่า เป้าหมายคือสร้างความพร้อมของทรัพยากรมนุษย์ทั้งหมด เพื้อพัฒนาให้เกิดสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ สำหรับยุทธศาสตร์ที่ใช้เป็นการเน้นหนักในการจัดหา จัดสร้าง ส่งเสริม สนับสนุน โครงสรางพื้นฐานสารสนเทศและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และการเรียนรู้ รวมถึงวิชาการ ความรู้สารสนเทศต่าง ๆ และผู้สอน
- แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกระทรวงศึกษาธิการ ปี พ.ศ.2550-2554 ประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์
- บทบาทของผู้บริหารการศึกษาต่อการพัฒนาการศึกษา ซึ่งเป็นผู้กำหนดทิศทางและนโยบายการศึกษา การพัฒนาการศึกษาโดยใช้เทคโนโลยีการศึกษา
3. การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อตอบสนองความต้องการภาครัฐและเอกชน ได้แก่
- ระดับการบริหารงานในองค์กร ซึ่งแบ่งการบริหารเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูง ผู้บริหารระบดับกลาง และผู้บริหารระดับต้นหรือระดับปฏิบัติการ
- ระดับของการตัดสินใจ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่ การตัดสินใจระดับสูง การตัดสินใจระดับกลางและการตัดสินใจระดับปฏิบัติการ
- ระบบสารสนเทศสำหรับองค์กร ประกอบด้วยระบบสารสนเทศย่อย ๆ ที่สัมพันธ์กัน คือ ระบบประมวลผลรายการ ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ ระบบสารสนเทศสำนักงาน ระบบสนับสนุนการตัดสินใจ และระบบสนับสนุนผู้บริหารระดับสูง
- การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยการนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาองค์กรขึ้นอยู่กับความพร้อมของปัจจัยภายในองค์กรหลายด้าน โดยต้องอาศัยการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพโดยมีระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหารซึ่งเป็นระบบสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารงานให้เกิดประสิทธิภาพ
4. เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม การเมือง และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้แก่
- การเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลของความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหลายด้าน คือ จากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น วิวัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามามีบทบาททางด้านธุรกิจอย่างมาก จึงมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม วัฒนธรรม การศึกษา เศรษฐกิจและการเมืองได้อย่างรวดเร็ว
- เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทำให้เกิดประโยชน์ด้านบวกมากกว่าผลเสียต่อสังคม
- เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านการเมือง มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการพัฒนาทางด้านการเมือง เช่น การเตรียมข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็วและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการเมืองต่าง ๆ แนวความคิด พรรคกาเมือง การหาเสียงเพื่อให้เกิดความศรัทธามากขึ้น
- เทคโนโลยีสมัยใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเปลี่ยนสารสนเทศให้มาอยู่ในรูปแบบความรู้แทน คือข้อมูลจะถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นสารสนเทศแล้วพัฒนาไปสู่ความรู้และในที่สุด คือการสร้างปัญญา การจัดการความรู้ ระบบสังคมบนพื้นฐานขององค์ความรู้มักจะต้องพูดถึงองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ คือ ศักยภาพการแข่งขัน เทคโนโลยีสารสนเทศ และทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด
- กระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ ซึ่งมีความสำคัญต่อการอยู่รอดขององค์กรและการสร้างได้เปรียบในการแข่งขัน โดยต้องมีกระบวนการที่ชัดเจนแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน คือ การวิเคราะห์กลยุทธ์ การจัดทำกลยุทธ์ และการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ
- เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ได้แก่ เพิ่มปริมาณการขาย การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มผลผลิต การเพิ่มคุณภาพของสินค้าและบริการ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
- ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เหตุผลที่ทำให้เกิดข้อโต้แย้งในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในประเด็นที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่าย การเปลี่ยนแปลงและความเสียง คือ ประการแรก การสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศเสียค่าใช้จ่ายและต้องใช้เวลา ประการที่สอง การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง และประการสุดท้าย การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศมีความเสี่ยง
- ผลกระทบของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีต่อองค์กร เหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดความล้มเหลวขององค์กรคือ ความผิดพลาด้านการบริหาร การสร้างความสำเร็จให้เกิดกับองค์กรนั้นจะต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน มุ่งเน้นการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติตลอดจนมีการดำเนินงานที่ดี คอมพิวเตอร์ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถสร้างสารสนเทศที่มีคุณค่าแม้ว่าคอมพิวเตอร์จะสร้างสารสนเทศได้มากมายแต่ก็มีคนไม่มากที่เข้าถึงสารสนเทศอย่างแท้จริง การที่สารสนเทศมีบทบาทเพิ่มขึ้นมากมาย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่เคยปฎิบัติเป็นประจำ องค์กรต่าง ๆ ได้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้ ทำให้องค์กรมีความก้าวหน้าขึ้นอย่างชัดเจน ปัจจุบันการเข้าถึงสารสนเทศและการนำสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ สามารถทำได้ในทุกระดับ ทำให้ผู้ที่ต้องทำการตัดสินใจมีความรอบรู้มากขึ้นและทำให้เกิดความเสี่ยงในการตัดสินใจน้อยลง ศักยภาพของเทคโนโลยีสารสนเทศได้เปลี่ยนแนวความคิดในการดำเนินการทางธุรกิจของผู้บริหารให้กว้างออกไปอีก
- การบริหารการเปลี่ยนแปลงเทคโลยีสมัยใหม่ การนำเทคโนโลยีสารสนเทศไปใช้ในการพัฒนาองค์กรสามารถทได้หลายระดับและหลายรูปแบบ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาบุคลากรในองค์กรให้ก้าวทันไปกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปในขณะเดียวกันผู้บริหารจะต้องมีวิสัยทัศน์ หากผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ทำให้การนำเทคโนโลยีไปใช้ไม่คุ้มค่าหรือไม่มีประสิทธิภาพ
-------------------------------------------------------------------
- คำถาม ทำไมลองเข้าไป google เพื่อค้นหาชื่อเวปบล็อกตัวเองไม่เจอ
-------------------------------------------------------------------
- สภาพปัญหา จากการศึกษาและลงมือปฏิบัติการจัดทำ blog รู้สึกสนุกดีและได้รับประโยชน์มาก ๆ ลองกลับมาฝึกทำที่บ้านด้วย อยากเพิ่มบล็อก และแกดเกด ให้มากกว่านี้ก็เลยลองนำมาฝึกลองเพิ่มดู ก็ไม่ยากนะคะ เพราะมีคำอธิบายพอช่วยเหลือได้ แต่ปัญหาก็มีบ้างถ้าเป็นคำอธิบายภาษาอังกฤษและซับซ้อน ก็เริ่มไม่มั่นใจที่จะดำเนินการต่อไป และบางครั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็ไม่เอื้ออำนวย ประกอบกับมีเวลาในการศึกษาอย่างลึกซึ้งน้อยไป เพราะต้องทำงานประจำด้วย แต่เบื้องต้นแล้วเข้าใจโปรแกรมและสามารถทำได้ ทั้งนี้เนื่องจากได้รับความรู้จากท่านอาจารย์ที่ได้ตั้งใจสอนและช่วยแนะนำถึงวิธีการทำ เทคนิคที่ดี ทำให้เข้าใจง่ายต่อการเรียนรู้ ข้าพเจ้าจะนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน จึงขอขอบพระคุณท่านอาจารย์ ณ โอกาสนี้
วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552
บทคัดย่องานวิจัยเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการศึกษา
ชื่องานวิจัย : การสร้างหลักสูตรฝึกอบรมการใช้เครื่องคำนวณกราฟฟิกในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระคณิตศาสตร์สำหรับนักศึกษาครู
คณะผู้วิจัย : สุวรรดี นิมมานพิสุทธิ์ และ ศักดา สวาทะนันทน์
สืบค้นข้อมูลต้นสังกัด:http://library.cmu.ac.th/cmul_2009/index.php
"บทคัดย่อ"
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างหลักสูตรการฝึกอบรมการใช้เครื่องคำนวณกราฟฟิกในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระคณิตศาสตร์สำหรับนักศึกษาครู กลุ่มที่ใช้ในการศึกษาคือ นักศึกษาวิชาเอกคณิตศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย
(1) แบบสำรวจความพร้อมและความต้องการเข้ารับการฝึกอบรม
(2) หลักสูตรฝึกอบรมซึ่งประกอบด้วยแผนการจัดกิจกรรมการอบรม 12 แผน และเอกสารประกอบการฝึกอบรม และ
(3) แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของการฝึกอบรม
โดยวิเคราะห์ผลจากการใช้หลักสูตรจากการประเมินใบงานและกิจกรรมที่มอบหมายของผู้เข้ารับการอบรม โดยใช้ค่าเฉลี่ยเลขคณิต และค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ย จากนั้น คำแนะนำที่ได้มาแปลผลเป็นระดับคุณภาพ สำหรับแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของการฝึกอบรม ใช้การวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยของเลขคณิตและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
- ได้หลักสูตรสำหรับฝึกอบรมการใช้เครื่องคำนวณกราฟฟิกในการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระคณิตศาสตร์สำหรับนักศึกษาครู
- ผลการปฏิบัติงานจากการฝึกอบรม พบว่าผู้รับการอบรมมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก
- ผลการศึกษาความเหมาะสมของหลักสูตรฝึกอบรมพบว่ามีความเหมาะสมในระดับมาก
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2552
ภาพประทับใจ
ภาพนี้ถ่ายกับเด็ก ๆ (หลานทั้งนั้นนะ)ดูกลมกลืน(หรือเปล่า)ยิ่งเจ้าตัวเล็ก(หน้าสุด)ตลกดี ประมาณว่าวิ่งเข้ามาจะยก 2 นิ้ว แต่เป็น 3 นิ้ว..ซะงั้น
ส่วนภาพนี้..บนตึกมด..บริเวณสวนนงนุชมีมดสีสันสวยงาม..เดินอยู่บนตึกเต็มไปหมดน่าทึ่งมาก..ต้องลองไปชมนะ..แต่คนก็ดูสดใสไม่แพ้มดเล้ย